ยิ่งกว่าอกหัก!! เฟลไลนี่ รับปล่อยโฮหลัง แมนยูฯ สั่งเด่ง มอยส์

ข่าวแมนยู ล่าสุด มารูยาน เฟลไลนี่ อดีตกองกลางหัวฟูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับกับสื่อว่าตัวเองนั้นถึงกับปล่อยโฮออกมาหลังจากที่บอร์บริหารของทัพ ปีศาจแดง เด้งฟ้าฝ่าใส่ เดวิด มอยส์ ในเวลานั้น

  ทั้งนี้ มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางชาวเบลเยียม และ เดวิด มอยส์ กุนซือใหญ่ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เคยร่วมงานกันที่ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ทำผลงานได้ดีมากๆ จนทำให้กุนซือชาวสกอตต์ตัดสินใจดึง เฟลไลนี่ ตามมาร่วมงานด้วยกันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อตอนปี 2013 สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าทั้งคู่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นักกับทัพ ปีศาจแดง โดยเฉพาะ มอยส์ ที่ต้องเดินออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนอีกฝ่าย ซึ่งหลังจากนั้น มอยส์ ก็ต้องใช้เวลาสำหรับการเรียกฝีมือกลับมาให้ได้อยู่พักใหญ่ก่อนจะกำลังทำผลงานได้สุดยอดกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม “เฟลไลนี่” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า “ตอนที่เขาโดนไล่ออกน่ะผมรู้สึกเสียใจแทนเขา เพราะผมรู้ดีว่าเขาอยากประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ถ้าคุณไปไล่ถามนักเตะ เอฟเวอร์ตัน ทุกคนว่าคิดยังไงเกี่ยวกับ มอยส์ แล้วล่ะก็ พวกเขาต่างก็จะบอกว่าเขาเป็นคนที่นิสัยดีมากๆ เขานำผมมาเล่นที่ อังกฤษ แล้วจากนั้นก็ทำให้ผมได้ไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ผมไม่มีวันพูดถึงเขาด้วยคำพูดที่แย่ๆ ได้หรอก”

“ผมพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าคุณให้เวลา มอยส์ มากพอแล้วล่ะก็ เขาก็จะสร้างทีมที่ดีขึ้นมาได้ ฤดูกาลนี้ผมได้ดูเกมบางนัดของ เวสต์แฮม และพวกเขาก็กลายเป็นทีมที่เอาชนะได้ยาก ถ้าให้ผมพูดตามตรงนะ ผมร้องไห้เลยในตอนที่รู้ว่า มอยส์ จะเสียงานของเขาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคิดว่าเขาจะได้อยู่กับที่นั่นเป็นเวลานาน”

“มันเป็นวันที่น่าเศร้า ผมเข้าไปที่ออฟฟิศของเขาเพื่อร่ำลาเขาก่อนที่เขาจะได้มีโอกาสบอกลาทุกคน ผมบอกเขาว่า -ขอให้โชคดีนะครับ- ตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมมากๆ มอยส์ เป็นคนที่เก่งและใจกว้างด้วย ซึ่งที่จริงนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จกับที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ มันอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนที่นิสัยดีเกินไป”

“หลังจากนั้นเขาไปทำงานที่ สเปน ต่อด้วย ซันเดอร์แลนด์ แล้วจากนั้นก็มาคุม เวสต์แฮมฯ และเคย่วยให้พวกเขารอดจากการตกชั้น แม้ว่าในเวลาต่อมาพวกเขา (เวสต์แฮมฯ) จะทำการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม แต่ มอยส์ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณปล่อยให้เขาได้สร้างทีมตามที่เขาต้องการ”