ออกสื่อร่วมกัน!! ป๋าเฟอร์กี้-โรนัลโด้ ให้สัมภาษณ์เทปพิเศษ

ข่าวแมนยู ล่าสุด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้งคู่ได้ออกสื่อร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ โรนัลโด้ กลับมาร่วมทัพ ปีศาจแดง อีกครั้งเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมให้สัมภาษณ์ในเทปพิเศษนี้

  ทั้งนี้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากๆ โดยรายหลังถึงขั้นยกให้อดีตบรมกุนซือชาวสกอตต์เป็นเหมือนพ่อของตนในวงการฟุตบอลเลยด้วย ซึ่งว่ากันว่า เฟอร์กูสัน เป็นหนึ่งในคนที่โน้มน้าวใจให้ โรนัลโด้ ย้ายกลับมาอยู่กับทัพ ปีศาจแดง เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเหมือนกัน โดยในเทปพิเศษนี้ทั้งคู่พูดกันหลายเรื่อง เช่น โรนัลโด้ บอกว่าหนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ เฟอร์กูสัน ทำให้กับตนคือการอนุญาตให้ตนไปอยู่ดูแลคุณพ่อที่ป่วยได้เต็มที่แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีโปรแกรมที่ต้องลงเล่นก็ตาม

ล่าสุด “โรนัลโด้” ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงหนึ่งว่า “เรามีความทรงจำที่ดีๆ ร่วมกันหลายอย่าง สิ่งที่ดีๆ มันไม่ได้มีแค่การที่เราได้แชมป์หลายรายการร่วมกันเท่านั้น แต่แน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดน่ะนะ ยังไงก็ตาม ผมเก็บอันที่ทำใจลืมได้ยากที่สุดเอาไว้ในใจของผม”

“บางทีเขาอาจจะจำเรื่องนี้ไม่ได้ก็ได้ และที่จริงผมก็ไม่ควรจะพูดถึงมันน่ะนะ แต่ผมต้องขอเล่าสักหน่อยเพราะมันเป็นอดีตที่งดงามมากๆ ผมจำได้ว่ามีวันหนึ่งที่คุณพ่อของผมท่านต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นผมหดหู่สุดๆ ผมเข้าไปคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา และเขาก็ตอบกลับมาว่า "คริสเตียโน่ มันไม่สำคัญหรอกว่านายจะไปนานแคไหน นายจะไป 2 หรือ 3 วันก็ได้”

“ตอนนั้นเรามีเกมยากๆ รออยู่หลายนัด และผมก็เป็นนักเตะคนสำคัญของทีมในตอนนั้นด้วย เขาพูดอีกว่า -แน่นอนว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะเรามีเกมหนักๆ รออยู่หลายนัด แต่ฉันเข้าใจสถานการณ์ของนายดี และฉันอนุญาตให้นายไปหาพ่อของนายได้”

“สำหรับผมแล้วนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด นอกเหนือจากการได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์ลีก, แชมป์บอลถ้วย ฯลฯ ผมรู้สึกซาบซึ้งกับการกระทำของเขามากๆ เพราะไม่ว่าเขาจะเคยพูดอะไรกับผมเอาไว้น่ะเขาก็รักษาสัญญาด้วยการทำตามนั้นอยู่เสมอ ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ”

โดยหลังจากนั้น “เฟอร์กูนสัน” ได้ให้สัมภาษณ์ต่อเนื่องว่า “ที่จริงผมเคยเจอเรื่องแบบนั้นในตอนที่ยังเป็นกุนซือวัยหนุ่ม ตอนนั้นผมอายุ 33 ปี และเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็มาที่ออฟฟิศของผม มันเกิดขึ้นในวันอังคาร เขาบอกกับผมว่า -เจ้านายฮะ ผมขอลาหยุดในวันศุกร์นี้ได้ไหมฮะ ?”

“ผมถามกลับไปว่า นายจะอยากลาในวันศุกร์นี้ทำไม? และเขาก็ตอบว่า -พอดีคุณแม่ของผมท่านเสียชีวิตแล้วฮะ- มันทำให้คุณจุกทันที คุณจะทำอะไรได้กันล่ะ ? พอได้ยินแบบนั้นผมเลยตอบไปว่า -โอ้ ได้แน่นอนสิ ไอ้ลูกชาย- ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถ้ามีนักเตะคนไหนที่เข้ามาหาผมแล้วถามว่า -พรุ่งนี้ผมขอลาหยุดได้ไหมฮะ ?- ผมก็จะตอบทันทีว่า -ได้สิ ฉันช่วยอะไรนายได้บ้างไหม ?”

“ในกรณีของ คริสเตียโน่ ผมรู้มาว่าคุณพ่อของเขาป่วย และรู้ว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาล มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่เขา (โรนัลโด้) ต้องไปที่นั่น (โรงพยาบาล) สโมสรฟุตบอลไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญมากมายอะไรเลย และมันก็มีบางอย่างที่ใหญ่กว่าสโมสรฟุตบอล ซึ่งครอบครัวคือหนึ่งในนั้น ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนั้นแม้แต่นิดเดียว คุณไม่ควรจะให้ความสำคัญกับสโมสรมากกว่าครอบครัวของคุณ ไม่ว่าสโมสรที่ว่าจะเป็นสโมสรไหนก็ตาม”